127 HOURS (2010) MOVIE REVIEW 127 HOURS IS BASED ON THE TRUE STORY OF AARON RALSTON.

127 Hours (2010) Movie Review 127 Hours is based on the true story of Aaron Ralston.

127 Hours (2010) Movie Review 127 Hours is based on the true story of Aaron Ralston.

Blog Article

รีวิวหนัง 127 Hours (2010) 127 ชั่วโมง เรื่องที่สร้างมาจากเรื่องจริงของอารอน ราลสตัน


127-Hours-2010-Movie-Review-127-Hours-is-based-on-the-true-story-of-Aaron-Ralston

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง


ประเภทของภาพยนตร์ :  ดราม่า, เอาชีวิตรอด


กำหนดฉาย : 13 ธันวาคม 2550 


ผู้กำกับ : แดนนี่ บอยล์


นักแสดงนำ : เจมส์ ฟรังโก้, เคท มาร่า, แอมเบอร์ แทมบลิน, ทรีต วิลเลียมส์


 

เรื่องย่อ : 


เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2003 นักปีนเขาอารอน ราลสตัน ไปเดินป่าที่อุทยานแห่งชาติ แคนยอนแลนด์ในรัฐยูทาห์ โดยไม่บอกใครเลย เขาผูกมิตรกับนักปีนเขาที่หลงทางอย่างคริสตี้และเมแกน และบอกทางให้พวกเขา ในขณะที่เขานำทางพวกเขา  ดูหนัง 2024

 

เขาพาพวกเขาไปที่สระน้ำใต้ดิน ทั้งสามมีช่วงเวลาที่ดีที่นั่น และในช่วงบ่ายวันนั้น สาวๆ เชิญเขาไปงานปาร์ตี้ที่จัดขึ้นในคืนถัดมา อารอนปฏิเสธและบอกลาสาว ๆ ที่กลับบ้าน เขาเดินต่อไปผ่านหุบเขาแคบ ๆ ในบลูจอห์น แคนยอน ในขณะที่กำลังปีนขึ้นไป ก้อน หินหนัก 800 ปอนด์ ที่เขากำลังห้อยอยู่หลุดออกมาและทำให้ทั้งคู่ตกลงมา ทำให้แขนขวาของเขาติดอยู่กับผนัง 

 

อารอนพยายามเคลื่อนย้ายก้อนหิน แต่มันไม่ขยับ เขายังรู้ตัวในไม่ช้าว่าเขาอยู่คนเดียว เขาเริ่มบันทึกวิดีโอไดอารี่โดยใช้กล้องวิดีโอเพื่อรักษาขวัญกำลังใจในขณะที่เขาใช้มีดพกขูดหินออกบางส่วน มีอยู่ครั้งหนึ่งมีดหลุดจากมือของเขา และเขาถูกบังคับให้ใช้เท้าเปล่าและกิ่งไม้เล็ก ๆ

 

ในอีกห้าวันต่อมา อารอนต้องแบ่งอาหารให้พอเหมาะและน้ำที่เหลือ 300 มล. พยายามทำให้ร่างกายอบอุ่นในตอนกลางคืน และต้องดื่มปัสสาวะเมื่อน้ำหมด นอกจากนี้ เขายังใช้เชือกปีนเขาเพื่อตั้งรอก เพื่อพยายามยกก้อนหินขึ้นมาแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ

 

ตลอดทั้งวัน อารอนรู้สึกสิ้นหวังและหดหู่ และเริ่มเห็นภาพหลอนเกี่ยวกับการหลบหนี ความสัมพันธ์ และประสบการณ์ในอดีต รวมทั้งครอบครัวและแฟนเก่าของเขา รานาเขายังนึกภาพว่าตัวเองไปงานปาร์ตี้ที่ได้รับเชิญและสนุกสนานไปด้วย ระหว่างภาพหลอนครั้งหนึ่ง อารอนตระหนักว่าความผิดพลาดของเขา คือเขาไม่ได้บอกใครเลยว่าเขาจะไปที่ไหนหรือไปนานแค่ไหน 

 

อารอนเห็นภาพอนาคตของลูกชายในวันที่หก ทำให้เขามีความมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตรอด เขาสร้างสายรัดจากฉนวนท่อคาเมลบัคและใช้คาราบิเนอร์รัดให้แน่น จากนั้น เขาใช้ความรู้เรื่องแรงบิดหักกระดูกที่แขนของเขา และใช้เครื่องมืออเนกประสงค์ตัดแขนออกอย่างช้า ๆ 

 

จากนั้น อารอนพันตอไม้เพื่อป้องกันเลือดไหลออกและถ่ายรูปก้อนหินก่อนจะโรยตัวลงมาจากหน้าผาสูง 65 ฟุต จากนั้นเขาพบน้ำฝนที่เก็บไว้ขณะลงมา เขาจึงดื่มน้ำที่นิ่งเนื่องจากขาดน้ำ และเดินต่อไป เขาเห็นครอบครัวหนึ่งกำลังเดินป่าในทะเลทราย จึงโทรขอความช่วยเหลือ พวกเขาให้น้ำเขาและแจ้งเจ้าหน้าที่ จากนั้น เฮลิคอปเตอร์ของหน่วยลาดตระเวนทางหลวงยูทาห์ก็พาเขาไปโรงพยาบาล

 

ความรู้สึกหลังจากชมภาพยนตร์ : 


สำหรับเรื่อง  127 hour ที่พึ่งดูจบไปแล้วนั้น เป็นเรื่องที่สร้างมาจากเรื่องจริงของอารอน ราลสตัน ที่เขาได้เดินทางโดยไม่บอกใครแล้วโชคร้ายติดอยู่ในร่องหินที่บลู จอห์น แคนยอน ในรัฐยูท่าห์ หนังเรื่องนี้ เหมือนเป็นหนังสารคดี ที่บอกเล่าเรื่องราว ความรู้สึก และอารมณ์ของอารอน ราลสตัน ได้เป็นอย่างดี

 

เมื่อแขนขวาถูกหินก้อนใหญ่ทับจนร่างกายไม่อาจหนีไปไหน นี้คือสภาพที่ อารอน ราลสตัน ต้องเจอ เขามีความฮึดสู้และไม่ยอมแพ้ต่อเขาสิ่งเขาเจอ แม้ร่างกายจะเริ่มขาดน้ำและอาหารจนเกิดภาพหลอนแล้ว 

 

แต่อารอน ราลสตัน เขาก็ยังประคองสติของเขาตัวเองได้อยู่ อีกอย่างที่ทำให้หนังเรื่องนี้สมจริงมากขึ้น คือ การถ่ายทอดและมุมกล้องที่ดูดิบ เหมือนกับว่า เรากำลังอยู่ตรงนั้นพร้อมอารอน ราลสตัน ดูหนังฟรี24.com

 

นี่เป็นหนังแนวเอาตัวรอดที่ถือว่าดีมาก ๆ อีกเรื่อง โดยผู้กำกับแดนนี่ บอยล์ อธิบายว่านี่คือหนังแอ็กชั่นที่พระเอกขยับตัวไม่ได้ ส่วนหนึ่งที่มันดีเพราะมันสร้างจากเรื่องจริง จึงทำให้สถานการณ์ดูสมจริง มุมกล้องดูมีความดิบและสถานการณ์มีความเป็นไปได้มาก ๆ อุบัติเหตุที่อารอนเจอนั้น สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพียงแค่ประมาทนิดเดียว ชีวิตก็เปลี่ยนได้ 

 

แม้จะเป็นหนังสู้ชีวิตที่คาบเกี่ยวระหว่างความฮึดกับความท้อ แต่หนังก็ไม่ได้เล่าออกมาในเชิงน่าเศร้าหรือหดหู่เลยนะ ตรงกันข้าม หนังเลือกที่จะเล่าแบบตรงไปตรงมา และบางทีก็ติดตลกด้วยซ้ำ 

 

สุดท้าย ทางออกของอารอนก็คือการตัดแขนตัวเองทิ้ง เป็นทางเลือกที่ฟังแล้วชวนหลอนมาก ต้องใช้แรงใจมหาศาลในการค่อยๆ หั่นเนื้อหักกระดูกตัวเอง ส่วนนี้หนังทำออกมาได้ดิบมากๆ เลือดสาดไม่แพ้หนังซาดิสต์ แถมยังมีการเล่นเอ็ฟเฟ็กส์เสียงเตือนตอนที่เผลอตัดโดนเส้นประสาทด้วย เป็นฉากที่กล้าพูดเลยว่าไม่ได้ดูเต็มตา 

 

โดยรวมแล้ว 127 Hours เป็นหนังเอาตัวรอดที่ไม่ใช่แค่แอ็กชั่นอย่างเดียว แต่ยังบอกเล่าความทุกข์ความกดดันของคนที่อยู่ในสถานการณ์นั้นอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมา นอกจากนี้ยังย้ำเตือนให้เรามีสติกับชีวิตในทุกย่างก้าว รวมถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากด้วย เพราะสติและแรงใจอันเข้มแข็งนี่แหละจะเป็นตัวช่วยพยุงเราขึ้นมา

 

#ดูหนัง2024 #127Hours #127ชั่วโมง 


กลับด้านบน

Report this page